เมนู

คำว่า อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามิ นี้ แสดงอาการอวด. แต่ใน
บทภาชนะแห่งบทว่า อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามิ นั้น คำว่าข้าพเจ้ารู้
ธรรมเหล่านี้ ข้าพเจ้าเห็นธรรมเหล่านี้ นี้ แสดงถึงความเป็นไปแห่งความรู้
และความเห็น ในธรรมมีฌานเป็นต้นเหล่านั้น. คำว่า และธรรมเหล่านี้ มี
แก่ข้าพเจ้า เป็นต้น แสดงความน้อมเข้ามาในตน.
คำว่า โดยสมัยอื่นแต่สมัยนั้น นี้ แสดงถึงสมัยที่ปฏิญญาว่าเป็นอาบัติ.
แต่ภิกษุนี้ต้องปาราชิกในขณะที่อวดทีเดียว. และเธอต้องอาบัติแล้ว ถูกภิกษุ
อื่นโจทก็ตาม ไม่ถูกโจทก็ตาม ย่อมปฏิญญา; เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
เธออันผู้ใดผู้หนึ่ง เชื่อก็ตาม ไม่เชื่อก็ตาม.

[เหตุที่ให้เชื่อถือมีฐานะ 6 อย่าง]


บรรดาความเชื่อ และไม่เชื่อ นั้น ในความเชื่อ พึงทราบวินิจฉัยก่อน
คือ :-
1. ข้อว่า ท่านได้บรรลุอะไร. ? คือ เป็นคำถามถึงธรรมที่ได้บรรลุ.
มีคำอธิบายว่า บรรดาคุณธรรมมีฌานและวิโมกข์เป็นต้น หรือบรรดามรรค
มีโสดาปัตติมรรคเป็นต้น ท่านได้บรรลุอะไร ?
2. ข้อว่า ท่านได้บรรลุด้วยวิธีอะไร ? คือ เป็นคำถามถึงอุบาย.
ความจริงในข้อนี้ มีอธิบายดังต่อไปนี้ คือ ท่านทำอนิจจลักษณะให้เป็นธุระ
แล้วจึงได้บรรลุ ? หรือท่านทำบรรดาทุกขลักษณะแลอนัตตลักษณะ อย่างใด
อย่างหนึ่งให้เป็นธุระแล้ว จึงได้บรรลุ ? ท่านตั้งมั่นแล้วด้วยอำนาจสมาธิ หรือ
ตั้งมั่นแล้วด้วยอำนาจวิปัสสนาจึงได้บรรลุ ? อนึ่ง ท่านตั้งมั่นแล้วในรูปธรรม
หรือตั้งมั่นแล้วในอรูปธรรม จึงได้บรรลุ ? ท่านตั้งมั่นแล้วในกายเป็นภายใน
หรือตั้งมั่นแล้วในกายเป็นภายนอก จึงได้บรรลุ. ?